ดูซีรี่ย์ออนไลน์ :
เรื่องย่อ
Taxi Driver 3 ซับไทย (모범택시 3) เป็นซีรีส์เกาหลีที่ดัดแปลงมาจากเว็บตูนชื่อเดียวกัน สร้างโดย คิมโบซึง กำกับโดย โอซังโฮ ผลิตโดยสถานีโทรทัศน์ SBS และมีกำหนดออกอากาศทั้งหมด 16 ตอน ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ถึง 10 มกราคม 2569 (อาจมีการเปลี่ยนแปลง) โดยออกอากาศทุกวันศุกร์และเสาร์ เวลา 22.00 น. ตามเวลาเกาหลี ซึ่งผู้ชมชาวไทยสามารถรับชมบทพูดภาษาไทยได้ทาง แพลตฟอร์มสตรีมมิง Viu Taxi Driver 3 ซับไทย ซีรีส์เรื่องนี้เล่าถึงบริษัท Rainbow Taxi (แท็กซี่สายรุ้ง) ซึ่งภายนอกดูเหมือนเป็นบริษัทให้บริการแท็กซี่หรูธรรมดา แต่แท้จริงแล้วคือองค์กรลับที่ให้ บริการแก้แค้น แก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของความอยุติธรรมและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการทางกฎหมาย โดยมี คิมโดกี (รับบทโดย อีเจฮุน) ชายหนุ่มอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ UDT ของกองทัพเรือ ซึ่งผ่านการฝึกมาแบบสุดเข้มข้นและเชี่ยวชาญภารกิจใต้น้ำ เป็นเสมือนหัวหอกหลักในการขับแท็กซี่และลงมือปฏิบัติการแก้แค้น การมาเข้าร่วมทีม Rainbow Taxi ของเขามีที่มาจาก ความสูญเสียครั้งใหญ่ ในชีวิต เมื่อแม่ของเขาตกเป็นเหยื่อของฆาตกรต่อเนื่อง ทำให้เขาต้องการล้างแค้นและช่วยเหลือผู้คนที่เผชิญชะตากรรมเดียวกัน ใน Taxi Driver 3 ซีซันนี้ ภารกิจของทีมแท็กซี่สายรุ้งได้ยกระดับความเข้มข้นและความเสี่ยงขึ้นไปอีกระดับ พวกเขาไม่ได้เผชิญแค่อาชญากรในประเทศอีกต่อไป แต่ต้องข้ามพรมแดนไปเผชิญกับ เครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ที่มีความซับซ้อนและอันตรายอย่างยิ่ง คดีสำคัญที่พวกเขาต้องจัดการในซีซันนี้เกี่ยวข้องกับวงการ การค้ามนุษย์ และ เงินกู้นอกระบบ ที่แผ่ขยายไปหลายประเทศ โดยมีบทสรุปจากตอนแรกที่แสดงให้เห็นว่าทีม Rainbow Taxi ได้เดินทางไปถึงประเทศญี่ปุ่นเพื่อตามช่วยเหลือ ยุน อี-ซอ เด็กสาวที่ถูกหลอกเข้าไปในเกมการพนันออนไลน์จนต้องติดหนี้ก้อนโตกับบริษัทเงินกู้หนี้นอกระบบและสุดท้ายถูกพาตัวไปยังต่างประเทศ ความท้าทายใหม่นี้บังคับให้ทีมแท็กซี่สายรุ้ง必須ทำงานร่วมกับ องค์กรระหว่างประเทศอย่าง INTERPOL เป็นครั้งแรก เพื่อปราบเจ้าแห่งอาชญากรรมที่แท้จริงให้สิ้นซาก นอกเหนือจากการต่อสู้กับศัตรูภายนอกแล้ว ซีซันนี้ยังลงลึกไปที่ จิตใจและบาดแผลภายใน ของตัวละครหลัก โดยเฉพาะ คิมโดกี ที่ต้องเผชิญกับ ภาวะ PTSD และปีศาจในใจของตนเอง การแก้แค้นในครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การทำงานตามหน้าที่อีกต่อไป แต่ยังกลายเป็น กระบวนการเยียวยา และการค้นหาความสงบในจิตใจของทั้งตัวเขาเองและผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ทีม Rainbow Taxi ยังคงประกอบไปด้วยสมาชิกกลุ่มเดิมที่ทำงานร่วมกันอย่างแข็งแกร่งดุจครอบครัว ได้แก่ จางซองชอล (รับบทโดย คิมอึยซอง): CEO ของบริษัทแท็กซี่สายรุ้ง ผู้อยู่เบื้องหลังการวางแผนทั้งหมด เขาเป็นเหมือนพ่อของทีม มีบุคลิกที่อ่อนโยนต่อเหยื่อแต่แข็งกร้าวต่อผู้ที่สมควรถูกลงโทษ อันโกอึน (รับบทโดย พโยเยจิน): แฮกเกอร์อัจฉริยะ ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีและเทคโนโลยี เป็นคนสืบข้อมูลและสนับสนุนภารกิจในโลกออนไลน์ ในซีซันนี้เธอยังมีบทบาทในการลงปฏิบัติการภาคสนามมากขึ้นอีกด้วย ชเว คยองกู (รับบทโดย จางฮยอกจิน): หัวหน้าทีมช่างยนต์ อดีตนักพัฒนารถยนต์จากบริษัทยานยนต์ชื่อดัง ผู้รับผิดชอบในการติดตั้งและปรับแต่งอุปกรณ์พิเศษบนรถแท็กซี่ พัค จินออน (รับบทโดย แบยูรัม): ผู้ช่วยทีมช่างยนต์ อดีตวิศวกรที่เคยทำงานในบริษัทผลิตเครื่องบิน มีหน้าที่พัฒนาอุปกรณ์ทางเทคนิคที่ทันสมัยสำหรับภารกิจ นักแสดงนำแห่งแท็กซี่สายรุ้ง การกลับมาของทีมนักแสดงชุดเดิมคือหนึ่งในจุดแข็งที่สุดของ Taxi Driver 3 โดยนักแสดงทุกคนล้วนคืนชีพให้กับตัวละครได้อย่างสมบูรณ์แบบและมีเคมีที่แน่นแฟนยิ่งขึ้น อีเจฮุน รับบท คิมโดกี อีเจฮุน กลับมาสวมบทบาท คิมโดกี อีกครั้งด้วยพลังและความเข้มข้นที่มากขึ้น เขาไม่ใช่แค่คนขับแท็กซี่ที่เก่งกาจแต่ยังเป็นอดีตหน่วยรบพิเศษที่เต็มไปด้วยแผลเป็นทางใจ การแสดงของอีเจฮุนในซีซันนี้สื่อถึงความเจ็บปวด การดิ้นรน และความมุ่งมั่นที่จะล้างแค้นแทนผู้บริสุทธิ์ได้อย่างลึกซึ้ง ฉากแอ็กชันทุกฉากเขาทำได้อย่างคล่องแคล่วและสมจริง ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเด็ดขาดในทุกการเคลื่อนไหว คิมอึยซอง รับบท จางซองชอล คิมอึยซอง ในบท จางซองชอล หรือหัวหน้าทีม เป็นการแสดงที่ทรงพลังและมีมิติ เขาคือเสาหลักของทีม ผู้ที่คอยวางกลยุทธ์และยึดเหนี่ยวจิตใจของสมาชิกทุกคน บทบาทของเขาในซีซันนี้ดูจะลงลึกไปกว่าแค่การเป็นผู้จัดการเบื้องหลัง แต่可能มีส่วนร่วมในแผนการบนพื้นดินมากขึ้น และต้องตัดสินใจในเรื่องที่เสี่ยงต่อหลักจริยธรรมมากขึ้น พโยเยจิน รับบท อันโกอึน พโยเยจิน รับบท อันโกอึน นักแฮกเกอร์อัจฉริยะของทีม ในซีซันที่ 3 นี้ บทบาทของเธอได้พัฒนาจากผู้สนับสนุนด้านเทคนิคในห้องควบคุม ไปสู่ นักปฏิบัติการภาคสนาม ที่มีความสามารถในการต่อสู้และล่อลวงเป้าหมายได้ด้วยตัวเอง ทำให้ตัวละครมีมิติและโลดโผนยิ่งขึ้น จางฮยอกจิน และ แบยูรัม จางฮยอกจิน ในบท ชเว คยองกู และ แบยูรัม ในบท พัค จินออน ยังคงทำหน้าที่เป็นคู่หูช่างเทคนิคที่ทั้งเก่งกาจและสร้างความบันเทิงให้กับเรื่อง พวกเขาคือผู้ที่ทำให้รถแท็กซี่คันเก่งกลายเป็นพาหะนที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ล้ำสมัยสำหรับภารกิจ และในซีซันนี้ทักษะการปลอมตัวของคยองกูก็ยังพัฒนาขึ้นจนน่าทึ่ง
รีวิวซีรี่ย์ (Review)
หลังจากที่สองซีซันแรกสร้างความประทับใจให้แฟนๆ มาแล้ว Taxi Driver 3 กลับมาพร้อมกับความสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทั้งแอ็กชันที่ดุเดือดกว่าเดิม โครงเรื่องที่ซับซ้อนลึกซึ้ง และการพัฒนาตัวละครที่เห็นได้ชัด ทำให้ซีซันนี้กลายเป็นซีซันที่ดุดันและดึงดูดใจที่สุดตั้งแต่เคยมีมา
แอ็กชันจัดเต็ม ลุ้นระทึกทุกฉาก
จุดขายสำคัญที่ทำให้ Taxi Driver 3 แตกต่างและน่าติดตามคือ ฉากแอ็กชันที่จัดเต็มและสมจริง ซีซันนี้ยังคงนำเสนอฉากต่อสู้แบบตัวต่อตัวที่รวดเร็ว รุนแรง และใช้เทคนิคการต่อสู้ที่หลากหลาย ฉากไล่ล่าด้วยรถยนต์บนถนนคดเคี้ยวที่ตื่นเต้นเร้าใจ และการปะทะกันด้วยอาวุธกับแก๊งอาชญากรรม ความพิเศษในซีซันนี้คือ ขนาดของฉากแอ็กชันที่ใหญ่ขึ้นเนื่องจากเรื่องราวขยายไปสู่ระดับนานาชาติ งานสตันต์และเทคนิคการถ่ายทำที่ดึงผู้ชมให้รู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ ยังคงความแข็งแกร่งและดูมีงบประมาณที่มากขึ้น แอ็กชันไม่ใช่เพียงการฟาดฟันเพื่อความบันเทิง แต่ทุกการเคลื่อนไหวล้วนบอกเล่าความมุ่งมั่นและความเจ็บปวดของตัวละคร
เรื่องราวที่เข้มข้นและสะท้อนสังคมได้อย่างเจ็บลึก
Taxi Driver 3 ยังคงรักษาจุดแข็งในการนำเสนอ คดีต่างๆ ที่สะท้อนปัญหาสังคมได้อย่างตรงเป้าและน่าสนใจ คดีในซีซันนี้ไม่เพียงแต่ดุเดือดกว่าเดิม แต่ยัง ใกล้ตัว ผู้ชมมากขึ้นอีกด้วย เริ่มจากเคสในตอนแรกที่พูดถึง การหลอกลวงผ่านแอปพลิเคชันเกมการพนันออนไลน์ ที่มุ่งเป้าไปที่เยาวชนและบังคับให้พวกเข�กู้ยืมเงินด้วยอัตราดอกเบี้ยกู้โหดอย่าง 5000% ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในสังคมยุคดิจิทัล นี่คือหนึ่งในจุดเด่นของซีรีส์ที่ทำให้มันไม่ใช่เพียงเรื่องบันเทิงแต่ยัง ให้แง่คิด กับผู้ชมอีกด้วย
ธีมหลักของซีซันนี้ยังคงตั้งคำถามเกี่ยวกับ ความยุติธรรมที่แท้จริง และเส้นแบ่งระหว่าง ความยุติธรรมกับการแก้แค้น ซีรีส์ทำให้เราได้ขบคิดว่า เมื่อระบบกฎหมายล้มเหลว การที่ประชาชนต้องลุกขึ้นมาดูแลตัวเองเป็นทางเลือกที่ถูกต้องหรือไม่ และความรุนแรงที่ใช้ในการแก้แค้นนั้นเป็นความรุนแรงที่จำเป็นหรือไม่ นอกจากนี้ ซีรีส์ยังสำรวจถึง ความหมายของครอบครัวและการเยียวยา โดยแสดงให้เห็นว่าทีม Rainbow Taxi ไม่ใช่แค่องค์กรแต่คือครอบครัวที่คอยประคองและเยียวยารักษาบาดแผลในอดีตของกันและกัน
บทบาทและเคมีของทีมที่แน่นแฟนขึ้น
การที่นักแสดงชุดเดิมกลับมาทำงานร่วมกันอย่างครบถ้วนส่งผลให้ เคมีระหว่างนักแสดง นั้นแข็งแกร่งและเป็นธรรมชาติมาก การแสดงของ อีเจฮุน ยังคงเป็นหัวใจหลักที่ขับเคลื่อนเรื่องราว เขาสามารถสื่ออารมณ์ที่ซับซ้อนของคิมโดกีได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งความเจ็บปวดจากอดีต ความมุ่งมั่นในการทำงาน และความขัดแย้งในใจ ในขณะที่สมาชิกคนอื่นๆ ในทีมต่างก็มีช่วงที่ได้เปล่งประกายและแสดงพัฒนาการของตัวละครเองเช่นกัน โดยเฉพาะ พโยเยจิน ในบทของโกอึน ที่มีบทบาทที่สำคัญและลงมาปฏิบัติการในสนามมากขึ้น ความสนุกอีกส่วนหนึ่งมาจากการที่ทีมงานยังคงรักษา อารมณ์ฮาๆ ขำๆ ในบางช่วงระหว่างสมาชิกในทีมไว้ได้ แม้เนื้อหาหลักจะเข้มข้นก็ตาม
คุณภาพโปรดักชันระดับภาพยนตร์
คุณภาพการผลิตของ Taxi Driver 3 นั้นยกระดับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซีซันนี้มีการขยายสเกลการถ่ายทำไปยัง โลเคชันระหว่างประเทศ อย่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเพิ่มความสมจริงและความยิ่งใหญ่ให้กับเรื่อง งานภาพ งานแสง สี และการออกแบบบรรยากาศ ต่างผ่านการคิดอย่างละเอียดเพื่อสร้างโลกที่ทั้งดิบ ดำเข้ม แต่ก็สมจริงตามแบบซีรีส์อาชญากรรม การจัดองค์ประกอบภาพและการเล่าเรื่องผ่านสตอรี่บอร์ดที่ระมัดระวัง ทำให้ทุกตอนมีความเป็น ภาพยนตร์ และดูมีระดับ
ข้อควรพิจารณา
แม้ Taxi Driver 3 จะเป็นซีรีส์ที่ยอดเยี่ยมในหลายด้าน แต่ผู้ชมที่เพิ่งเริ่มต้นอาจจะต้องทำความเข้าใจพื้นหลังของตัวละครสักเล็กน้อย เนื่องจากเรื่องราวบางส่วนเชื่อมโยงกับซีซันก่อนๆ อย่างไรก็ตาม เรื่องราวในแต่ละคดีก็ยังสามารถติดตามได้อย่างสนุกโดยไม่จำเป็นต้องดูซีซันก่อนหน้าอย่างยิ่งนัก
คำตัดสินและคะแนน
Taxi Driver 3 เป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ที่ตอบสนองความคาดหวังของแฟนๆ ได้อย่างเกินเอื้อม ซีซันนี้ไม่เพียงแต่รักษามาตรฐานความบันเทิงอันยอดเยี่ยมของสองซีซันแรกไว้ได้อย่างครบถ้วน แต่ยังยกระดับความเข้มข้นด้วยพล็อตเรื่องที่ขยายวงกว้างสู่ระดับนานาชาติ การพัฒนาตัวละครที่ลึกซึ้ง และฉากแอ็กชันที่ดุเดือดตื่นเต้น เร้าใจกว่าที่เคย การผสมผสานระหว่างแอ็กชันจัดเต็ม ดราม่าที่สะท้อนสังคม และความสัมพันธ์ของตัวละครที่เหมือนครอบครัว ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในซีรีส์เกาหลีที่น่าติดตามที่สุดในปี 2025
คะแนนที่ให้: 9.0/10
แอ็กชันและความบันเทิง: 10/10 - แอ็กชันต่อเนื่อง, จัดเต็ม, และสมจริงทุกฉาก
เนื้อเรื่องและบท: 9/10 - เข้มข้น ลึกซึ้ง สะท้อนสังคมได้อย่างคมชัด
การแสดง: 9/10 - นักแสดงทรงพลังและมีเคมีที่ดีระหว่างทีม
คุณภาพโปรดักชัน: 9/10 - งานภาพและระดับการผลิตที่ยอดเยี่ยมสมคำร่ำลือ
-
สามารถรับชม ซับไทย เรื่องอื่นๆ ได้ที่ ซับไทย และติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับซีรี่ย์ได้ที่ บล็อกของเรา.







