ตอนที่ 1
[สำรอง 1]
ตอนที่ 2
[สำรอง 2]
ตอนที่ 3
[สำรอง 3]
ตอนที่ 4
[สำรอง 4]
ตอนที่ 5
[สำรอง 5]
ตอนที่ 6
[สำรอง 6]
ตอนที่ 7
[สำรอง 7]
ตอนที่ 8
[สำรอง 8]
ตอนที่ 9
[สำรอง 9]
ตอนที่ 10
[สำรอง 10]
ตอนที่ 11
[สำรอง 11]
ตอนที่ 12
[สำรอง 12]
ตอนที่ 13
[สำรอง 13]
ตอนที่ 14
[สำรอง 14]
ตอนที่ 15
[สำรอง 15]
ตอนที่ 16
[สำรอง 16]
ตอนที่ 17
[สำรอง 17]
ตอนที่ 18
[สำรอง 18]
ตอนที่ 19
[สำรอง 19]
ตอนที่ 20
[สำรอง 20]
ตอนที่ 21
[สำรอง 21]
ตอนที่ 22
[สำรอง 22]
ตอนที่ 23
[สำรอง 23]
ตอนที่ 24
[สำรอง 24]
ตอนที่ 25
[สำรอง 25]
ตอนที่ 26
[สำรอง 26]
ตอนที่ 27
[สำรอง 27]
ตอนที่ 28
[สำรอง 28]
ตอนที่ 29
[สำรอง 29]
ตอนที่ 30
[สำรอง 30]
ตอนที่ 31
[สำรอง 31]
ตอนที่ 32
[สำรอง 32]
ตอนที่ 33
[สำรอง 33]
ตอนที่ 34
[สำรอง 34]
ตอนที่ 35
[สำรอง 35]
ตอนที่ 36
[สำรอง 36]
ตอนที่ 37
[สำรอง 37]
ตอนที่ 38
[สำรอง 38]
ดูซีรี่ย์ออนไลน์ :
เรื่องย่อ
ฝ่ามิติประตูมรณะ The Spirealm ซึ่งเป็นชื่อภาษาอังกฤษของซีรี่ย์ต้นฉบับภาษาจีนที่มีชื่อว่า 致命游戏 คือผลงานซีรี่ย์แนวระทึกขวัญเอาชีวิตรอดที่ดัดแปลงมาจากนิยายออนไลน์ชื่อดังอย่าง Death Game โดยผู้แต่ง เหวินฟู่. ซีรี่ย์เรื่องนี้นำเสนอโลกปริศนาที่เต็มไปด้วยอันตรายและเกมประลองชีวิตที่ผู้เล่นต้องฝ่าฟันผ่านด่านทดสอบต่าง ๆ ในประตูลึกลับที่เรียกว่า ประตูมรณะ เพื่อเอาชีวิตรอดและไขปริศนาความจริงที่ซ่อนอยู่ ฝ่ามิติประตูมรณะ The Spirealm เนื้อเรื่องเริ่มต้นที่ หลิงเสี่ยวฉือ ตัวเอกของเรื่องซึ่งเป็นชายหนุ่มผู้ใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมายหลังจากสูญเสียคนสำคัญ เขาตกอยู่ในห้วงความคิดที่จะฆ่าตัวตาย แต่ในวินาทีที่ตัดสินใจกระโดดตึก กลับมีข้อความประหลาดส่งเข้ามาในโทรศัพท์ของเขา เชิญชวนให้เขาเข้าร่วม เกมประตูมรณะ ที่สัญญาว่าจะทำให้ความปรารถนาเป็นจริงได้ หลิงเสี่ยวฉือตัดสินใจตอบรับคำเชิญและถูกพาตัวเข้าไปในโลกอีกมิติหนึ่ง โลกของประตูมรณะประกอบด้วยประตูหลายบาน แต่ละบานนำไปสู่มิติหรือโลกคู่ขนานที่มีธีมและกฎเกณฑ์แตกต่างกันไป ผู้เล่นต้องไขปริศนา เอาชนะอสูรร้าย และปฏิบัติตามกฎของแต่ละโลกให้ถูกต้องเพื่อผ่านด่านและได้รับกุญแจสำหรับเปิดประตูสู่ด่านต่อไป ภารกิจหลักคือต้องผ่านทั้งหมด 12 ประตู โดยแต่ละประตูมีความยากและอันตรายเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ความล้มเหลวหมายถึงความตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในประตูแรก หลิงเสี่ยวฉือได้พบกับ เฉินเป่าเอ๋อร์ ผู้เล่นอาวุโสผู้มีประสบการณ์และความสามารถในการเอาชีวิตรอดสูง เฉินเป่าเอ๋อร์กลายเป็นทั้งผู้ช่วยและพันธมิตรสำคัญของหลิงเสี่ยวฉือในการเผชิญหน้ากับอันตรายต่างๆ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่พัฒนาจากการเป็นหุ้นส่วนในการเอาชีวิตรอดไปสู่ความผูกพันที่ลึกซึ้ง ทั้งสองต้องร่วมมือกันทั้งทางกายภาพและจิตใจเพื่อผ่านพ้นอุปสรรค แต่ละประตูในฝ่ามิติประตูมรณะมีธีมเฉพาะตัวที่น่าสนใจและน่าขนลุก เช่น ประตูหมู่บ้านผีสิงที่มีตำนานสยองขวัญเกี่ยวกับวิญญาณแห่งหญิงสาวที่ถูกทรยศ ประตูโรงพยาบาลร้างที่เต็มไปด้วยวิญญาณแพทย์และผู้ป่วยที่ยังคงรอการรักษาอยู่ ประตูป่าลึกลับที่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดและพืชกินเนื้อรอคอยเหยื่อ หรือประตูโรงเรียนเก่าที่มีปริศนาการหายตัวไปของนักเรียน นอกจากความท้าทายจากโลกภายในประตูแล้ว ผู้เล่นยังต้องเผชิญกับความขัดแย้งและแผนการของผู้เล่นคนอื่นๆ บางคนเห็นแก่ตัวและพร้อมจะเสียสละชีวิตผู้อื่นเพื่อความอยู่รอดของตนเอง กลายเป็นเกมแห่งจิตวิทยาและการแก่งแย่งชิงดีที่น่ากลัวไม่แพ้อันตรายจากโลกประตู ในขณะเดียวกัน ก็มีผู้เล่นบางกลุ่มที่พยายามไขความลับที่แท้จริงของประตูมรณะ และค้นหาที่มาของเกมประหลาดนี้ ซีรี่ย์ฝ่ามิติประตูมรณะนำเสนอองค์ประกอบเหนือธรรมชาติที่น่าสนใจผสมผสานกับปริศนาทางจิตวิทยา ตัวละครแต่ละคนมีภูมิหลังและแรงจูงใจในการเข้าร่วมเกมที่แตกต่างกัน บางคนต้องการเงินทอง บางคนต้องการรักษาชีวิตคนรัก บางคนแสวงหาความตื่นเต้น หรือบางคนต้องการหลบหนีจากความจริงบางอย่างในชีวิต สิ่งนี้ทำให้เรื่องราวมีความลึกซึ้งและมีมิติมากกว่าแค่เรื่องราวสยองขวัญ ตลอดการเดินทางผ่านประตูต่างๆ หลิงเสี่ยวฉือและเฉินเป่าเอ๋อร์ต้องเผชิญกับความทรงจำอันเจ็บปวด ความกลัวที่ซ่อนเร้น และการทดสอบความแข็งแกร่งของจิตใจ ไม่เพียงแต่ต้องเอาชนะอันตรายภายนอก แต่ยังต้องต่อสู้กับปีศาจในใจของตนเองอีกด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ได้รับการทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยสถานการณ์ที่คับขันและการเสียสละที่ต้องตัดสินใจ ซีรี่ย์ฝ่ามิติประตูมรณะยังมีเนื้อหาสะท้อนสังคมแฝงอยู่ผ่านโลกในแต่ละประตู เปิดเผยความมืดมนของมนุษย์และความปรารถนาที่อาจนำไปสู่การทำลายล้าง แนวคิดเกี่ยวกับชีวิต ความตาย และความหมายของการมีชีวิตถูกหยิบยกมาพิจารณาผ่านประสบการณ์สุดขีดของผู้เล่นแต่ละคน การต่อสู้เพื่อความอยู่รอดกลายเป็นกระจกสะท้อนคุณค่าและศีลธรรมของแต่ละบุคคล โลกของประตูมรณะยังมีระบบและกฎเกณฑ์ที่ซับซ้อน ผู้เล่นสามารถได้รับไอเทมพิเศษหรือความสามารถเฉพาะตัวจากการผ่านด่านต่างๆ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตในด่านต่อไป ในขณะเดียวกันก็มีข้อจำกัดและบทลงโทษสำหรับการฝ่าฝืนกฎของแต่ละโลก ระบบนี้ทำให้เรื่องราวมีกลไกที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ องค์ประกอบโรแมนซ์ระหว่างหลิงเสี่ยวฉือและเฉินเป่าเอ๋อร์ได้รับการพัฒนาอย่างละเอียดอ่อนและสมเหตุสมผลท่ามกลางสถานการณ์อันตรายถึงชีวิต ความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นระหว่างการเผชิญความตายร่วมกันกลายเป็นพลังผลักดันสำคัญสำหรับทั้งคู่ในการก้าวผ่านอุปสรรค เป็นความสัมพันธ์ที่ทั้งอ่อนโยนและเข้มแข็งในเวลาเดียวกัน ฝ่ามิติประตูมรณะไม่ใช่เพียงซีรี่ย์สยองขวัญหรือเอาชีวิตรอดทั่วไป แต่ยังเป็นเรื่องราวของการเติบโตและการค้นหาตัวเอง หลิงเสี่ยวฉือจากชายหนุ่มที่สิ้นหวังกลายเป็นผู้มีแรงบันดาลใจและความเข้มแข็งในที่สุด การเดินทางผ่านประตูมรณะกลายเป็นกระบวนการเยียวยาบาดแผลทางจิตใจและค้นพบคุณค่าของชีวิต ในด้านการผลิต ซีรี่ย์เรื่องนี้มีเอฟเฟกต์พิเศษที่น่าประทับใจ การออกแบบโลกในแต่ละประตูมีเอกลักษณ์และสร้างบรรยากาศได้อย่างสมจริง ดนตรีประกอบช่วยเสริมอารมณ์และความตึงเครียดได้อย่างเหมาะสม การดำเนินเรื่องมีความเร็วที่เหมาะสม สลับระหว่างช่วงตื่นเต้นระทึกขวัญและช่วงพัฒนาตัวละครได้อย่างสมดุล ซีรี่ย์ฝ่ามิติประตูมรณะประสบความสำเร็จในการสร้างโลกสมมติที่น่าสนใจและมีกฎเกณฑ์ชัดเจนในขณะเดียวกันก็พัฒนาตัวละครได้อย่างลึกซึ้งและน่าเชื่อถือ การผสมผสานระหว่างความตื่นเต้นสยองขวัญ โรแมนซ์ และการเติบโตส่วนบุคคลทำให้เรื่องราวมีหลายมิติและดึงดูดผู้ชมกลุ่มกว้าง นักแสดงนำฝ่ามิติประตูมรณะ The Spirealm ซีรี่ย์ฝ่ามิติประตูมรณะ The Spirealm นำแสดงโดยนักแสดงดาวรุ่งที่มีฝีมือและเป็นที่นิยมในวงการซีรี่ย์จีน เฉิน เหวินหยู รับบทเป็น หลิงเสี่ยวฉือ ตัวเอกของเรื่องซึ่งเป็นชายหนุ่มที่ตกอยู่ในห้วงสิ้นหวังก่อนจะถูกดึงเข้าสู่โลกประตูมรณะ เฉิน เหวินหยูสามารถถ่ายทอดความเปราะบางทางอารมณ์และการเติบโตของตัวละครได้อย่างน่าประทับใจ การเปลี่ยนแปลงจากบุคคลสิ้นหวังไปเป็นผู้เข้มแข็งที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นเป็นหนึ่งในจุดเด่นของการแสดงของเขา เซี่ย จือเหว่ย์ รับบทเป็น เฉินเป่าเอ๋อร์ ผู้เล่นอาวุโสผู้มีความสามารถและประสบการณ์ในการเอาชีวิตรอด เซี่ย จือเหว่ย์นำเสนอบุคลิกที่ดูเย็นชาแต่แฝงไว้ซึ่งความอ่อนโยนและความเป็นห่วงเป็นใย ความสัมพันธ์ระหว่างเฉินเป่าเอ๋อร์กับหลิงเสี่ยวฉือได้รับการพัฒนาอย่างละเอียดอ่อนผ่านการแสดงของเซี่ย จือเหว่ย์ที่สื่ออารมณ์อันซับซ้อนได้อย่างยอดเยี่ยม นักแสดงสมทบอื่น ๆ ก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างโลกของประตูมรณะให้สมจริงและน่าสนใจ แต่ละตัวละครมีภูมิหลังและแรงจูงใจเฉพาะตัวที่ช่วยเสริมเนื้อเรื่องหลักและสร้างมิติให้กับโลกแห่งเกมประตูมรณะ คะแนนซีรี่ย์ฝ่ามิติประตูมรณะ The Spirealm 9.0/10 ซีรี่ย์ฝ่ามิติประตูมรณะ The Spirealm ได้คะแนนสูงถึง 9.0 จาก 10 คะแนน เนื่องจากเป็นซีรี่ย์ที่ผสมผสานองค์ประกอบได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งความตื่นเต้นสยองขวัญ การพัฒนาตัวละคร องค์ประกอบโรแมนซ์ และปรัชญาชีวิต จุดเด่นได้แก่ การสร้างโลกที่สมจริงและมีกฎเกณฑ์ชัดเจน ตัวละครที่มีพัฒนาการน่าสนใจ และการดำเนินเรื่องที่รวดเร็วไม่น่าเบื่อ
รีวิวซีรี่ย์ (Review)
โปรดทราบ: รีวิวนี้จัดทำขึ้นเพื่อเสริมเนื้อหา SEO และเพื่อให้ผู้ชมได้เห็นภาพที่ชัดเจนของความรู้สึก และจุดเด่นของ Hello There อย่างละเอียด
เมื่อก้าวเข้าสู่โลกของ Hello There สิ่งแรกที่สะดุดตาคือโทนของซีรี่ย์ที่ผสมผสาน “คอเมดี้ยุทธภพ” กับ “โรแมนติกลัทธิ” ได้อย่างลงตัว พล็อตเริ่มต้นด้วยความคิ้วท์ของ Tang Buyan ที่ดูเหมือนหญิงสาวธรรมดาแต่ถูกผูกมัดด้วยชะตากรรมอันลึกลับ ภารกิจตามหา “ชายที่มีไฝใต้หางตา” อาจฟังดูเบาสมอง แต่เมื่อรื้อไปลึกๆ พบว่าเป็นการตั้งต้นที่แฝงความหมายเกี่ยวกับเลือดเนื้อ ความเชื่อ และการเลือกตัวตน
จุดแข็งของเรื่องคือเคมีระหว่าง Buyan กับ Li Chengqi — หญิงสาวสดใส บ้าพลัง แต่จริงจังเมื่อจำเป็น และชายหนุ่มเยือกเย็น มีทักษะ แต่ซ่อนความรู้สึกไว้อย่างลึกซึ้ง ฉากที่ทั้งสองเริ่มเข้าใจกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ผู้ชมเริ่มลุ้นและเชียร์ได้อย่างไม่ยาก รวมถึงวินาทีที่ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนจาก “รู้จักกัน” เป็น “รักกัน” ก็สามารถสร้างความรู้สึกอบอุ่น แม้จะอยู่ในยุทธภพล้วนชนิดที่ไม่ใช่แค่การต่อสู้
อย่างไรก็ตาม Hello There ก็มีจุดที่เล็กน้อยที่อาจสะดุดใจผู้ชมบางกลุ่ม เช่น ลำดับเหตุการณ์บางตอนถูกเร่งจังหวะจนรู้สึกว่า “ใช่ ผูกปมเร็วเกินไป” หรือองค์ประกอบคอเมดี้–ยุทธภพบางครั้งหลุดโทนจนย้อนกลับสู่ความจริงจังอย่างฉับพลัน ซึ่งอาจทำให้ความรู้สึกของเรื่องสะดุด
อีกจุดคือคุณภาพการต่อสู้หรือฉากแอ็กชันบางช่วงดูงบประมาณจำกัดเมื่อเทียบกับซีรี่ย์ยุทธภพยักษ์ใหญ่ แต่นั่นไม่ได้เป็นอุปสรรคใหญ่ เพราะเสน่ห์ของเรื่องอยู่ที่ความกลมกล่อมของรักกับโชคชะตา มากกว่าการต่อสู้แบบหนักหน่วง
ในภาพรวม Hello There คือซีรี่ย์ที่เหมาะมากสำหรับผู้ชมที่มองหาการผจญภัยในยุทธภพผสมกับรักโรแมนติก สนุก คลายเครียด และมีแง่มุมของการเติบโตของตัวละคร Buyan จากเด็กสาวที่ถูกบังคับให้ทำภารกิจ กลายเป็นหญิงที่เลือกชีวิตของตัวเอง และ Chengqi จากชายหนุ่มที่ต้องแบกรับภาระ กลายเป็นคนที่เลือกจะรักและปกป้องในแบบของเขา
หากให้สรุป: ประสบการณ์ดูซีรี่ย์เรื่องนี้เหมือนกับการทานของหวานแบบโรแมนติก แต่แฝงด้วยช็อกโกแลตเข้มข้นของโชคชะตา และเมื่อปิดฝาเรื่องราว คุณจะรู้สึกว่าคุณได้สัมผัสไม่แค่รักแต่ “เลือก” ได้ — และนั่นคือความทรงจำที่น่าประทับใจ
Review (English)
Entering the realm of Hello There is like stepping into a blend of martial-world comedy and romantic fable. The premise is quirky—Tang Buyan is tasked with finding her destined one who bears a mole under his eye to solve her family’s bloodline dilemma—but it serves as a smart entry point to explore identity, fate and love.
One of the strongest aspects of the show is the chemistry between Buyan and Li Chengqi. She’s bright, bold and full of energy; he’s composed, accomplished yet quietly vulnerable. Their journey from strangers to partners in destiny is charming and relatable, making the viewer root for them not just as lovers but as individuals growing into their true selves. The moment their relationship shifts from mutual challenge to mutual care is beautifully handled and gives emotional heft to the light-hearted tone.
Of course, Hello There does have its quirks. Sometimes narrative beats are rushed: secrets are revealed in quick succession, which can shorten the emotional build-up. The action sequences and production value are serviceable but at times reveal budget constraints compared to bigger martial-arts productions. However, these are minor quibbles when weighed against the show’s strengths.
The show thrives not because it’s groundbreaking — it’s not — but because it embraces its identity: a feel-good romance wrapped in folklore, a little surreal, a little whimsical, yet grounded by characters you care about. Buyan’s arc from dutiful descendant to self-driven heroine and Chengqi’s transformation from duty-bound heir to someone who chooses love reflect the show’s core message: destiny is not just found, it’s shaped.
In short: Hello There is ideal for viewers seeking a romance that doesn’t take itself too seriously, but still offers emotional satisfaction. It’s like a sugar-coated martial-arts tale with heart. When the final credits roll you’ll feel that you didn’t just watch a matchmaking mission—you watched two people choosing each other against the odds.
-
สามารถรับชม พากย์ไทย เรื่องอื่นๆ ได้ที่ พากย์ไทย และติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับซีรี่ย์ได้ที่ บล็อกของเรา.




